เพิ่มความปลอดภัย มั่นใจเมื่อรถบรรทุกใช้ GPS
จากข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารและรถบรรทุกพบว่าสาเหตุหลักล้วนเกิดจากพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับรถ อาทิ การใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด การละเลยให้คนขับรถใช้ชั่วโมงขับมากเกินไป นอกจากนี้ ด้วยความตระหนักว่า รถเมื่อเกิดอุบัติเหตุสร้างความเสียหายต่อร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก จึงต้องเร่งให้มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในการขับขี่ยวดยาน โดยเฉพาะกับรถบรรทุก จึงมีการออกกฎให้รถบรรทุกต้องติด GPS
เพื่อเป็นการยกกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในระบบขนส่งสาธารณะ กรมการขนส่งทางบกจึงได้กำหนดให้รถบรรทุกทุกคันติดตั้ง GPS เพื่อเป็นการติดตามและคุมพฤติกรรมของผู้ขับรถบรรทุก ซึ่งข้อมูลทั้งหมดใน GPS จะทำการเชื่อมโยงเข้ากับศูนย์บริการจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS ของกรมการขนส่งทางบกแบบเรียลไทม์ (real time) โดยศูนย์ฯ จะรู้ได้ทันที่ว่า รถคันดังกล่าวนั้นวิ่งด้วยความเร็ว เท่าไหร่ รถอยู่ที่พิกัดใด ทั้งนี้ การกำหนดนี้ไม่รวมถึงรถสองแถว รถหมวด 4 และรถหมวด 1 ภูมิภาค
นับตั้งแต่ต้นปี 2559 ที่มีการติดตั้งระบบนี้กับรถบรรทุก นับเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะต่อไปนี้ชีวิตและทรัพย์สินจะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่หากใครคิดว่าระบบนี้อาจนำมาซึ่งการคอรัปชั่น กรมการขนส่งทางบกได้มีการออกค่ากำหนดให้เครื่อง GPS ต้องประกอบด้วยระบบการทำงานให้ทำงานตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ท ทำงาน และต้องมีการส่งรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ โดยข้อมูลต้องประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบันทึกข้อมูลการเดินทางของรถ ได้แก่ หมายเลขการรับรอง และหมายเลขเครื่อง GPS ข้อมูลการใช้งานของรถ วัน เวลา ความเร็ว ตำแหน่งพิกัด สถานะของเครื่องยนต์ สถานะของสัญญาณ สถานะของข้อมูล ลำดับข้อมูล ข้อมูลใบอนุญาตขับรถ ข้อมูลการปลดหรือถอดเครื่อง GPS รถบรรทุกทุกคันต้องติดเครื่องหมายรับรองจากกรมการขนส่งทางบกไว้ที่เครื่อง GPS หรือในตำแหน่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน นอกเหนือจากความเข้มงวดในการติดตั้งแล้ว กรมการขนส่งทางบกยังได้ติดตามเพื่อตรวจสอบอย่างตลอดเวลา เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุและความสูญเสียทุกต่างๆ
ความมั่นใจในความปลอดภัยเมื่อรถบรรทุกติด GPS นั้น จะเห็นชัดเจนก็เมื่อช่วงหน้าเทศกาลสำคัญๆ ประชาชนนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา ที่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันหรือเกิดอุบัติเหตุมักจะมีความรุนแรงและเสียหายมากกว่าช่วงเวลาปกติ ข้อมูลที่เก็บได้จาก GPS จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างศูนย์ควบคุมการเดินรถ กับบริษัทขนส่งนั้นๆ เพื่อวางแนวทางความปลอดภัยในการเดินรถ และทำการควบคุมการเดินรถให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ประกอบกับทุกวันนี้สมาร์ทโฟน และแกตเจตต่างๆ ก็มีราคาถูกลง และเข้าถึงได้ทุกคน GPS กับสมาร์ทโฟน และแกตเจตต่างๆ จึงทำงานเข้ากันได้เป็นอย่างดี ทำให้การส่งผ่านข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ